วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

จุดจบของคนพาล


จุดจบของคนพาล
พวกเขาโดนฟ้องคดีแล้วมากมายหลายคดี แต่ก็ยังทำผิดกฎหมายฯลฯอีกไม่หยุดหย่อน รวมถึงยังคงตามใส่ความ ก่อกวน ขัดขวาง ทำลายพระอาจารย์ และทำร้ายสุวรรณโคมคำ รวมถึงยังคงโกหกหลอกลวงศิษย์สุวรรณโคมคำอย่างไร้สำนึกอยู่ไม่หยุดหย่อน ทั้งๆที่พวกเขาก่อเรื่องผิดกฎหมายร้ายแรงไว้มากมายหลายกระทงแล้ว  เช่น
1.พวกมูลนิธิฯแอบถอนเงินทุนจดทะเบียนออกไปใช้
          เงินทุนจดทะเบียนนั้นทุกมูลนิธิต้องมีมาตั้งแต่ยื่นจดทะเบียนก่อตั้งมูลนิธิเลย ตามหลักกฎหมายแล้วไม่ว่ามูลนิธิใดๆก็ไม่มีสิทธิ์ถอนเงินจำนวนนี้ออกไปใช้โดยเด็ดขาด หากมูลนิธิใดขืนถอนออกไปใช้ก็จะมีผลต่อความมั่นคงและความอยู่รอดของมูลนิธินั้นๆ และผู้ที่ถอนเงินนั้นออกไปจะมีความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายอาญา ซึ่งกรรมการมูลนิธิฯชุดปัจจุบันได้แอบถอนเงินดังกล่าวออกไปใช้แล้ว จึงมีความผิดทางอาญากันถ้วนหน้าโดยไม่ต้องสงสัย
2.พวกเขาแจ้งข้อมูลเท็จต่อราชการ
            ตอนที่พวกกรรมการมูลนิธิฯแอบไปประชุมปลดพระอาจารย์ออกจากตำแหน่งประธานนั้น พวกเขาใส่ความพระอาจารย์ไว้อย่างร้ายแรงซึ่งมีเขียนบันทึกไว้ในรายงานการประชุม เช่น... มีการประชุมลงมติสงฆ์ของวัดยานฯว่าพระอาจารย์ต้องอาบัติปาราชิก ให้สึกเสีย และมีการสลักหลังหนังสือสุทธิว่าต้องอาบัติปาราชิกเป็นหลักฐาน เมื่อวันที่...  แล้วนำไปยื่นที่สำนักงานเขตฯส่งต่อเป็นลำดับถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อปลดพระอาจารย์ออกจากตำแหน่ง
            แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้มีการประชุมสงฆ์หรือลงมติสงฆ์ใดๆเกิดขึ้นในเรื่องดังกล่าวเลย และไม่มีสลักหลังหนังสือสุทธิที่ว่านั้นด้วย(มีจดหมายยืนยันจากวัดยานฯส่งมาที่ศาลอย่างเป็นทางการว่าไม่มีเอกสารหรือเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นแต่ประการใด)
            การแอบปลดพระอาจารย์ด้วยข้อมูลเท็จนี้ เป็นความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายอาญา กรรมการมูลนิธิฯกลุ่มดังกล่าวจึงมีความผิดทางอาญากันถ้วนหน้าโดยไม่ต้องสงสัยอีกกระทงหนึ่งเช่นกัน
3.พวกเขาให้เอาแท็งก์น้ำสูงที่สร้างเสร็จแล้วในสุวรรณาภาออกไป(โดยไม่ยอมจ่ายเงิน) แล้วแอบเอาเงินทำบุญ(ผ้าป่า)แท็งก์น้ำฯลฯนั้นไปใช้อย่างอื่น รวมทั้งแอบเอาเงินทำบุญในบัญชีมูลนิธิ ฯลฯ ไปใช้จนหมด มากมายหลายแสนบาท โดยไม่สนใจทำโครงการสุวรรณาภาและไม่มีการพัฒนาใดๆในสุวรรณาภาเลย ได้แต่เผาๆๆจนวอดวายไปทั่ว(จนบัดนี้ก็ยังคงเผาอยู่เรื่อยๆ)  แล้วอ้างว่า เงินจำนวนมากรวมถึงเงินทำบุญจากมาเก๊าเป็นต้นนั้น เอาไปสร้างถนน(ปลอม)จนหมด ทั้งๆที่ทางใหม่ดังกล่าวไม่ใช่ถนนจริงตามคำกล่าวอ้างอย่างสวยหรูแต่อย่างใด เป็นเพียงทางดินที่เอารถไถมาดันหญ้าบนหน้าดินออกให้แลดูเหมือนถนนเท่านั้น ซึ่งใช้งบไม่เกิน 1-2 หมื่นบาทก็ทำได้แล้ว (แล้วเงินหลายแสนบาทที่จริงหายไปไหน? ต้องลองไปถามกรรมการมูลนิธิฯดูคงจะรู้ )  สิ่งเหล่านี้พวกกรรมการมูลนิธิฯก็ต้องไปอธิบายในศาลเช่นกันนะคราฟฟ ถ้าอธิบายไม่เคลียร์ก็คุกอีกเช่นกันนะครับท่าน
4.พวกเขาโดนฟ้องอย่างหนักหลายคดี ต้องติดคุกแน่นอนแล้ว !!!
            ที่ผ่านๆมาพวกแก๊งที่ใส่ความพระอาจารย์โดนฟ้องกันไปหลายพวกหลายคดีไม่น้อยแล้ว แต่จากนี้ไปจะเน้นไปที่การฟ้องพวกกรรมการมูลนิธิฯเป็นหลัก เดิมทีพระอาจารย์ไม่อยากฟ้องร้องพวกกรรมการ(เพราะพวกเขาทำผิดไว้ร้ายแรงมากนับไม่ถ้วน หากโดนฟ้อง พวกเขาจะต้องติดคุกแน่แท้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้) ท่านจึงได้ให้โอกาสพวกเขาขอโทษและสำนึกผิดหลายต่อหลายครั้ง แต่พวกเขาหาได้สำนึกผิดและแก้ไขดังรับปากเลย บัดนี้พระอาจารย์จึงได้ทยอยยื่นฟ้องพวกเขาแล้วตามกรรมที่พวกเขาก่อไว้ เพราะพวกเขาไม่ได้สำนึกเลย จึงต้องดำเนินการฟ้องร้องเพื่อนำความยุติธรรมและนำแสงสว่างกลับคืนมาสู่สุวรรณโคมคำเสียที ส่วนใครจะต้องติดคุกบ้างก็สุดแล้วแต่บาปกรรมที่พวกเขาก่อไว้ เราก็ได้แต่ปลงอนิจจังและวางอุเบกขา ที่เหลือก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายเถิด
แต่พวกเราต้องอดใจรอกันหน่อยนะ กระบวนการทางศาลนั้นรอบคอบเที่ยงตรงและยุติธรรมก็จริงอยู่ แต่ต้องใช้เวลา ตอนนี้กำลังทยอยยื่นฟ้องเพิ่มเติมอยู่ พวกเขาก่อความผิดไว้มากมาย ทนายเขียนสำนวนฟ้องแทบไม่ทัน หลักฐานก็มีมากมายเหลือเกิน ชัดเจนทั้งน้านนนน
หมายเหตุ: 8 คดีที่ยื่นฟ้องไปแล้วนั้น ยังเลื่อนตลอด เพราะไม่มีจำเลยคนไหนกล้ามาสู้หน้าพระอาจารย์ในศาลเลยสักคน
ถนนปลอม(ถนนโกหก)
เดิมทีในธรรมสถานสุวรรณาภามีถนนเส้นหนึ่งตัดผ่านอยู่แล้ว ซึ่งถนนเส้นนี้มีมาช้านานแล้วตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายก่อนตั้งสุวรรณาภาอีก ระบุไว้ในแผนที่ของทางราชการว่าเป็นถนนสาธารณะ สมัยพระอาจารย์ท่านมาตั้งธรรมสถานได้ประสานกับผู้นำท้องถิ่นให้ของบราชการมาปรับปรุงพัฒนาจนเป็นถนนลูกรังอย่างดีกว้างถึงประมาณ 8 เมตร สะดวกแก่การสัญจรกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านต่างอนุโมทนายินดีกันถ้วนหน้า
มาถึงกรรมการมูลนิธิชุดหลัง นอกจากไม่ทำการพัฒนาใดๆในสุวรรณาภา(แม้แต่ตามโครงการที่ขออนุมัติไว้กับราชการ)แล้ว ยังปิดถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรมาแต่ไหนแต่ไรอันมีระบุในแผนที่ของทางราชการว่าเป็นถนนสาธารณะ ไม่รู้ว่าพวกเขาเอาอํานาจบาตรใหญ่หรืออำนาจอิทธิพลอะไรมาปิดถนนสาธารณะตามใจตนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่วเช่นนี้ (นี่ก็ผิดกฎหมายอีกกระทงหนึ่ง)
โดยพวกเขาอ้างว่าปิดถนนเส้นนี้เพื่อทำให้สุวรรณาภาเกิดความสงบปราศจากสิ่งรบกวนใดๆทำให้ปัจจุบันสงบร่มรื่นเหมาะแก่การปฏิบัติและเผยแผ่ธรรมอย่างยิ่งรุ่งเรืองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แท้จริงแล้วพวกเขาปิดถนนนี้เพื่อไม่ให้ใครผ่านเข้ามาเห็นความอัปยศและความเลวร้ายของพวกเขาต่างหาก เพราะแค่พวกเขาได้สุวรรณาภาไปไม่ถึงปี สุวรรณาภาก็ทรุดโทรมสุดๆ มีการเผาทำลายพื้นที่ไปทั่วอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการดูแลรักษาใดๆ และปัจจุบันเป็นพื้นที่ร้างมาหลายเดือนแล้ว(หลังจากปิดถนน)ไม่มีพระสงฆ์อยู่สักรูปหรือฆราวาสอยู่สักคน(สมัยพระอาจารย์ทำสุวรรณาภามา6ปี ไม่เคยมีร้างพระหรือฆราวาสแม้แต่ครั้งเดียว) พวกเขาคิดว่าไม่มีใครขึ้นไปดูพื้นที่แล้วจะโกหกอย่างไรก็ได้หรือไร พวกเขาโกหกคำโตอย่างไม่ละอายบูรพาจารย์หรือศิษย์สุวรรณโคมคำหรือใครๆเลยหรือ ยังมีมโนธรรมและจิตสำนึกหลงเหลืออยู่ในหัวใจพวกเขาบ้างไหม
อีกอย่างพวกเขาอ้างซะสวยหรู ว่าทำถนนให้ใหม่แล้วอย่างดี ดีกว่าเดิมอีก พวกเขายกถนนนี้ขึ้นมาชูโอ้อวดเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง            ดูได้ที่http://www.komcome.com/Temple/detail.php?pw_webboard_id=11 อ้างว่าที่ทำนี้ต้องใช้เงินไปมากมายมหาศาลทั้งเงินจากในบัญชีมูลนิธิ เงินทำบุญต่างๆ รวมถึงเงินจากมาเก๊า ที่จริงแล้วนี่ก็เป็นการโกหกคำโตอย่างหน้าด้านๆอีกครั้งหนึ่ง เพราะเส้นทางดังกล่าวแท้จริงแล้วมิใช่ถนน เป็นเพียงการเอารถไถใหญ่มาดันหญ้าที่ผิวดินออกเพื่อให้แลดูเป็นแนวเหมือนถนน ตรงไหนดินต่ำเกินไปนักเขาก็เอารถแบคโฮล์ของพวกพ้อง(แก๊ง)เขามาโกยดินแถวๆนั้นแหล่ะมาโปะสักหน่อยก็พอ ไม่ได้ซื้อดินมาถมสักคัน และไม่ได้เอาลูกรังมาถมสักรถ ที่พวกเขาทำไปนั้นใช้เงินไม่เกิน 1-2 หมื่นบาท ใช้เป็นถนนให้รถวิ่งจริงๆไม่ได้ (แล้วเงินหลายแสนบาทที่อ้างว่าต้องใช้ทำถนนไปนั้น แท้จริงแล้วหายไปไหน)
ปัจจุบันชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนในเรื่องนี้อย่างหนัก เตรียมรวมตัวกันประท้วงธรรมสถานและผู้ใหญ่บ้านแล้ว

ไหว้ครูรุ่น 19 (รุ่นมหาปัญญาทราม)
                        เมื่อปีพ.ศ.2554 มูลนิธิจัดไหว้ครูเรียนรุ่น1และรุ่น2 ไปแล้ว พอมาปี2555นี้กำลังจะจัดไหว้ครูขึ้นอีกครั้งซึ่งพวกเขานับเป็นการไหว้ครูเรียนรุ่นที่ 19 เรียกว่ารุ่นมหาปัญญาบารมี ดูได้ที่ http://www.komcome.com/Home.php (เอ...แล้วรุ่นที่3-18หายไปไหน) เหล่าศิษย์สุวรรณโคมคำลองตรองดูเอาเถิด พวกคนที่(แอบ)อ้างตนว่าบูรพาจารย์ส่งให้มากำจัดคนชั่วแต่พฤติกรรมของพวกเขาเหล่านั้น ปลิ้นปล้อนตลบตะแลงโกหกชาวโลกอย่างหน้าไม่อาย(อีกแล้ว) เพียงเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองและพวกพ้อง พวกเขาก็คิดว่าจะโกหกหลอกลวงใครๆโดยวิธีใดๆก็ได้อย่างนั้นหรือ หลอกให้ใครมาเป็นเครื่องมือและหลอกเอาประโยชน์จากใคร(ที่หลงเชื่อ)โดยใช้ยี่ห้อสุวรรณโคมคำ(ที่แอบปล้นเอามา)มาหลอกลวงเหยื่ออย่างไรก็ได้ หรือแม้แต่อ้าง(เอาเอง)ว่าบูรพาจารย์เบื้องบนสั่งให้มาทำอย่างนี้ ก็ยังได้อย่างนั้นเหรอ
                        พวกมูลนิธิเขาพาไหว้ครูกันเดือนพฤษภาคมนี้แหล่ะ ถ้าใครอยากร่วมแก๊งโกหกอยากเรียนรุ่นมหาปัญญาทราม รุ่นเสื่อมศีลธรรม ก็รีบติดต่อสมัครเรียนได้ที่มูลนิธิ หรือว่าใครอยากไปดูหน้าค่าตาพวกแก๊งโกหกที่ใกล้จะติดคุกกันถ้วนหน้า ก็แวะไปดูที่นั่นได้เช่นกันจร้า
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ...ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว”



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น